พบลูกค้าใหม่

     สำหรับงานส่วนใหญ่ เราใจฐานะฟรีแลนซ์มักจะจำเป็นต้องไปพูดคุยรับฟังขอบเขตงาน ทำความเข้าใจเนื้องาน และทำให้ลูกค้าเชื่อว่าคุณนี่แหละคือ คนที่จะตอบโจทย์ที่เขาต้องการได้ และเขาพึงพอใจที่จะทำงานด้วย
     การพบลูกค้าใหม่ครั้งแรก เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด หลายคนอาจเครียดกับการเตรียมตัว ผมมีคำแนะนำดี ๆ ให้ครับ

เป็นตัวของตัวเอง
    อย่าดูถูกตัวเองหรือคิดว่าเราเป็นแค่ฟรีแลนซ์ตัวเล็ก ๆลูกค้ารู้ดีอยู่แล้วว่าคุณเป็นฟรีแลนซ์ เราไม่จำเป็นต้องใส่สูทอย่างเต็มยศ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่สมควรสวมรองเท้าแตะ กางเกงขาสั้นไปพบลูกค้าเหมือนกัน หาจุดที่เป็นตัวเองจริง ๆ ให้พบ ไม่ต้องพยายามให้เข้าใจว่าคุณมีบริษัทใหญ่โต เป็นของตัวเองดีที่สุด พยายามขายงานให้ได้ด้วยเนื้องาน


เตรียมตัวให้พร้อมที่สุด
    วิธีลดความกังวลได้มากที่สุดและดีที่สุดก็คือ การเตรียมตัวให้พร้อมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรามีข้อมูลที่จำเป็นทุกอย่างอยู่ในมือ พอร์ตงานที่จะแสดงให้ลูกค้าดู เตรียมให้พร้อมใช้งานอย่างน้อย 1 วันก่อนใช้งานจริง อย่าสร้างนิสัยมาเตรียมตัวเอาตอนใกล้ ๆ หรือจนดึกดื่น มันอาจจะทำให้คุณไม่สดชื่น ไม่มีสมาธิ และไม่มีพลังในการพูดคุยกับลูกค้า สำหรับคนที่จะเตรียมนำเสนองานผ่านระบบออนไลน์ อย่าลืมสำรองเวอร์ชั่นออฟไลน์ไว้ด้วยเผื่อเกิดปัญหาในการเชื่อมต่อ

พูดในส่วนที่ควรพูด ไม่พุดจาเรื่อยเปื่อย
    ทักษะสำคัญที่ต้องสร้างให้ได้ คือรู้ว่าตัวเองควรพูดอะไร มากน้อยขนาดไหน ลูกค้าอาจให้คุณแนะนำตัวเอง ถ้าเริ่มแค่ส่วนนี้คุณพูดตะกุกตะกักเสียแล้วใครจะเชื่อว่าคุณคือมืออาชีพข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตัวเอง บริการและสินค้า คือสิ่งที่คุณต้องพูดได้แบบคล่องแคล่วแบบหลับตาพูดได้เลย

   ก่อนพบลูกค้า ซ้อมและเตรียมตัวว่าจะพูดอะไร นำเสนออะไร รวมทั้งคุณมีคำถามอะไรที่อยากจะถามลูกค้าบ้าง อย่าลืมเตรียมสมุดสำหรับจดบันทึกข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่าไม่พลาดข้อมูลในทุก ๆ ส่วน

ตรงเวลาเเสมอ
   ไม่มีอะไรกแย่ไปกว่าการนัดลูกค้าแล้วไปไม่ตรงเวลานัด ไม่มีข้ออ้างอะไรทั้งนั้น ไม่ว่ารถจะติดสักแค่ไหน ถ้าคุณเป็นมืออาชีพ คุณต้องรู้จักบริหารและเผื่อเวลา รวมทั้งเลือกเส้นทางการเดินทางที่คุณให้คุณไปถึงที่นัดหมายตรงเวลาเสมอ ปัญหานี้ป้องกันได้โดยการเผื่อเวลาไว้เสมอในการออกเดินทาง
   นอกจากนี้ การตรงเวลาตอนนัด ยังสะท้อนถึงโอกาสในการส่งมอบงานได้ตรงเวลาหรือไม่ด้วยในความรู้สึกของลูกค้า

กล้าที่จะปฏิเสธ
   เราต้องรู้จักตัวเองและขีดความสามารถ รวมทั้งทักษะและความถนัดที่เรามี หลายครั้งหลังจากไปพบลูกค้าแล้วอาจพบว่าเราไม่สามารถดูแลงานนั้น ๆ ได้แน่ หรือของเขตงานไม่ชัด หรือเพราะสาเหตุอะไรก็ตามที่ทำให้คุณรู้สึกได้ทันทีว่าไม่สามารถรับงานนั้นได้ ก็ต้องกล้าปฏิเสธ
   ถ้าแน่ใจว่าจะไม่รับงาน เราอาจจะแจ้งลูกค้าทันทีหรือโทร หรืออีเมล์แจ้งลูกค้า แต่หากไม่แน่ใจว่าจะรับงานนั้นหรือเปล่า อย่าเพิ่งไปเออออหรือตกปากรับคำเป็นอันขาด เพราะหากไปรับปากแล้วต้องมาบอกลูกค้าภายหลังว่าคุณทำงานนั้นไม่ได้ จะทำให้คุณหมดความน่าเชื่อถือไปทันที

อย่าด่วนสรุปค่าใช้จ่ายทันที
    หากลูกค้าพอใจและเชื่อว่าคุณน่าจะทำงานให้เขาได้ สิ่งที่ตามมาก็มักจะเป็ฯการสอบถามค่าใช้จ่าย คำแนะนำที่ดีก็คือ อย่างเพิ่งด่วนสรุปค่าใช้จ่ายตอนนั้น ฟรีแลนซ์มืออาชีพควรป้องกันกากรแจ้งราคาผิดพลาด โดยบอว่าคุณจะกลับไปทบทวนรายละเอียดแล้วส่งใบเสนอราคาพร้อมรายละเอียดมาให้
    การแจ้งราคาทันที อาจทำให้กดดันหรือเรียกราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็นให้แจ้งลูกค้าว่าคุณขอทบทวนรายละเอียดต่าง ๆ ให้รอบคอบก่อนแล้วจะเสนอค่าใช้จ่ายมาอีกครั้ง คุณจะมีเวลาทบทวนระหว่างเดินทางกลับที่ทำงาน คิดให้รอบคอบก่อนจะสรุปค่าใช้จ่ายไปจริง ๆ

ตั้งคำถามบ้าง
   แม้เราจะเป็นคนรับงานมาทำ แต่ฟรีแลนซ์มืออาชีพต้องรู้จักการตั้งคำถาม อย่างน้อยที่สุดก็คือการซักถามรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับเนื้องาน เกี่ยวกับโครงการที่จะรับทำ ไม่ใช่นั้งบื้อไม่พูดไม่ถามอะไรเลย อย่าลืมว่างานของฟีแลนซ์ก็คือการช่วยให้ลูกค้าได้รับงานที่ต้องการคำถามจากเราจะช่วยให้เขาได้ทบทวนและมองเห็นบางประเด็นที่ตกหล่นได้ และที่สำคัญจะช่วยให้ลูกค้ามองว่าเราเป็นมืออาชีพ และมีความรู้จริง ๆ ภาพลักษณ์และความมั่นใจของเราในสายตาลูกค้าจะดูดีขึ้น...